พันธมิตรการค้า
อุ้ยเสี่ยวมินเขียน
“ผู้ที่แกร่ง ทน อึด เท่านั้นจึงจะได้ครอบครอง all new Ranger” หลายคนคงเคยได้ยินโฆษณาตัวนี้ ซึ่งเป็นรถกระบะ สายพันธุ์แกร่ง ฟอร์ดมอเตอร์ ผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ของโลกแห่งสหรัฐอเมริกา
ผู้บุกเบิกบริษัทคนแรกคือ นายเฮนรี่ ฟอร์ด มีความสนใจเครื่องยนต์ และทำงานซ่อมเครื่องยนต์ตั้งแต่เด็ก จนปี1898 ความท้าทายทำให้ฟอร์ดตัดสินใจรับตำแหน่งผู้จัดการบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง แต่เขาไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้สักคัน ผู้ถือหุ้นขับไล่ เขาจึงตัดสินใจออกจากบริษัท
เขาเสียศูนย์ ประคองตนเอง พยายามพัฒนารถยนต์ จนปี 1901 สร้างชื่อเสียงโดยชนะรายการแข่งขัน การทดสอบรถยนต์ จัดขึ้นที่ กลอส พอยท์ รัฐมิชิแกน มีระยะทางแข่งขัน 10 ไมล์ โดยนายอเล็กซานเดอร์ มัลคัมสัน พ่อค้าถ่านหินรายใหญ่ ขอเจรจาทำธุรกิจร่วมกัน ปี1903 บริษัท ฟอร์ดมอเตอร์ ถือกำเนิดขึ้น จากการร่วมทุนของนาย มัลคัมสัน และเพื่อนจำนวน 12 คน เงินลงทุน 100,000 ดอลลาร์
จุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จก็คงต้องให้เครดิตกับนายมัลคัมสัน หากไม่มีเขาคงไม่มีฟอร์ดมอเตอร์ เขาเล็งเห็นผลกำไรจากการร่วมทุน จึงตัดสินใจร่วมด้วย โดยหลักพันธมิตรทางการค้าคือ การร่วมมือระหว่างธุรกิจหลายๆแห่งแบ่งงานกันทำ ลงทุนร่วม เพื่อมีเป้าหมายกำไรร่วมกัน มีจุดสังเกตดังนี้
มีประสานงาน แลกเปลี่ยนจัดหาวัตถุดิบและชิ้นส่วน บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้าใช้วิธีซื้ออะไหล่จากผู้ผลิตรายย่อยเพื่อประหยัดเวลาในการทำงาน
การคิดค้นนวัตกรรมร่วมกัน คือนำเอาจุดดีของกันและกันมาพัฒนาต่อยอดสินค้าเช่น บริษัทมือถือร่วมมือกับผู้ผลิตจอภาพOLED พัฒนาหน้าจอมือถือ
พัฒนาขีดความสามารถ การจัดการ และทีมงาน ความสัมพันธ์เป็นไปในรูปแบบกลุ่มสมาคมต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน
ลงทุนร่วมกันมีเป้าหมายเพื่อให้สิ่งที่ตนต้องการ พอจบภารกิจก็แยกย้าย เช่น กิจการร่วมค้า สปอนเซอร์สนับสนุนการแข่งขันกีฬา
สร้างเครือข่ายทางการตลาด การรู้จักคนหลากหลายวงการก็สามารถเรียนรู้วิธีคิดและได้ลูกค้าเพิ่มเติมเช่น การออกบูชตามงานแสดงสินค้าต่างๆ การแสดงตนให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้า
มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อทำให้สินค้า การบริการเป็นที่พอใจ กรณีนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายและลูกค้า โดยลูกค้าแนะนำข้อเสีย หรือแนวทางที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ผู้ขายได้ทราบ ส่งผลให้เกิดกำไรแก่ผู้ผลิต ผู้ขาย
หลัก 6 ประการคือความสัมพันธ์ที่ต้องพึงพากันและกัน ความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องเกิดจากองค์กรใหญ่ ตัวเราเองก็สามารถประสบความสำเร็จ มีหลักพิจารณาดังนี้
มีเป้าหมายร่วมกันเช่น อยู่รอด พัฒนาตนเอง มีความสุข พัฒนาสินค้าบริการ ต้องการกำไร
ยอมรับเงื่อนไขเจรจา เมื่อมีเป้าหมายร่วมกัน การเจรจาจึงเกิดขึ้น รูปแบบทางการคือ จะต้องมีการเซ็นเอกสารข้อตกลง ความผูกมัด เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น รูปแบบไม่เป็นทางการคือการตกลงกันด้วยวาจา จดจำคำพูดเป็นพันธะทางใจที่ต้องทำร่วมกัน
ได้ประโยชน์ร่วม ความสัมพันธ์จะต้องแบ่งปันกัน หากฝ่ายใดได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวจะไม่เกิดความร่วมมือ อีกฝ่ายจะมองว่าเป็นการเอาเปรียบตนเอง
แบ่งงานกันทำไม่ก้าวก่าย ต้องพูดคุยกันตั้งแต่ต้นว่าขอบเขตของแต่ละฝ่ายอยู่ตรงไหน เพื่อสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน
ความซื่อสัตย์จริงใจ หากเอาเปรียบ มีการหลอกลวงเพื่อให้ได้ประโยชน์แก่ตนเองจะเกิดภาพลักษณ์ไม่ดีมีการฟ้องร้องดำเนินคดีเกิดขึ้น
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว (เมื่อจบงานเฉพาะกิจ) จึงต้องมีกิจกรรมพบปะสังสรรค์ตามแต่โอกาส เพื่อสามารถร่วมกันได้อีกในอนาคต
สรุป พันธมิตรการค้าคือ การร่วมมือระหว่างกันอย่างจริงใจ โดยมีเป้าหมายร่วม แบ่งงานกันทำตามความสามารถ เป็นประโยชน์ร่วมกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว มุ่งเน้นผลสำเร็จ เป้าหมายสูงสุดคือมีกำไรร่วมกัน
หน้าที่เข้าชม | 82,975 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 47,246 ครั้ง |
เปิดร้าน | 5 ธ.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 26 มิ.ย. 2568 |